ขนมฟักทอง ขนมไทยสีสวยเนื้อเหนียวนุ่ม

ใครชอบกินขนมไทยบ้างเอ่ย วันนี้เรามีสูตรและวิธีการทำขนมฟักทองสีเหลือง เนื้อเหนียว ๆ รสหวานอร่อยมาฝากค่ะ ใครที่ชอบกินต้องไม่พลาดนะคะ ถึงแม้จะหาซื้อกินได้ง่ายตามร้านขนมหวานทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าได้ลองทำเองคงจะดีไม่น้อยทีเดียว


 สิ่งที่ต้องเตรียม


           ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น ๆ)
          แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
          แป้งมัน 1/4 ถ้วย
          มะพร้าวขูด 50 กรัม
          น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
          กะทิ 1 ถ้วย
          ถ้วยตะไลสำหรับนึ่ง

วิธีทำ

      1. นำฟักทองไปนึ่งจนสุกแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

      2. ใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันลงในฟักทองที่นึ่งสุกแล้ว จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน

      3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปนวด จากนั้นค่อย ๆ เติมกะทิลงไปคนผสมจนเข้ากันดีและน้ำตาลทรายละลายหมด 

      4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย จากนั้นนำไปนึ่ง (ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด) ประมาณ 15-20 นาทีจนแป้งสุกและใส นึ่ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น 

       5. แคะขนมออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

            Tip : ถ้าใครอยากให้ขนมออกมาดูไทย ๆ ยิ่งขึ้นไปอีก ก็ใช้วิธีนึ่งด้วยกรวยใบตอง โดยมีวิธีการทำคือ ก่อนนึ่งก็ให้หาใบตองมาเช็ดให้สะอาด แล้วเจียนใบตองเป็นวงกลม จากนั้นก็ม้วนเป็นทรงกรวยเล็ก ๆ กลัดด้วยไม้กลัด แล้วตักขนมฟักทองใส่ลงไปประมาณ 3/4 ของกรวย จากนั้นนำไปเสียบลงในช่องของรังถึง (ช่องเว้นช่อง) แล้วนึ่งจนสุก นำออกจากรังถึง จัดใส่จานให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

ขอบคุณที่มาจาก http://cooking.kapook.com/

วิธีทำเกล็ดขนมปังโฮมเมด เคล็ดลับจับของเหลือมาทำของดีง่าย ๆ กรุบกรอบทุกเมนู

หากเคยนึกเสียดายขนมปังที่ทานไม่หมดแล้วต้องโยนทิ้ง เราสามารถแปลงร่างขนมปังมาทำเป็นเกล็ดขนมปังง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นานเอาไว้ปรุงอาหารคาวได้ง่าย ๆ ค่ะ



          หลายครัวเรือนมักซื้ออาหารมาเก็บตุนไว้ ถ้าเป็นพวกข้าวสารอาหารแห้งหรืออาหารกระป๋องก็เก็บไว้ได้นานแรมปี แต่ถ้าเป็นของสดก็มีเวลาจำกัดต้องรีบลงมือประกอบอาหาร นอกจากข้าวที่เป็นอาหารหลักแล้วเชื่อว่ามีคนกินขนมปังแทนข้าวด้วย ถ้าหากกินขนมปังไม่หมดทำอย่างไรกันคะ ? ต้องทิ้งลงถังขยะใช่ไหม รู้สึกเสียดายหรือเปล่าคะ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเกล็ดขนมปังแบบโฮมเมดเก็บไว้ใช้ปรุงอาหารในครั้งหน้า เคล็ดลับเด็ดจากนิตยสาร Gourmet & Cuisine จากขนมปังแผ่นนิ่ม ๆ จะย่อส่วนลงมาเป็นเกล็ดขนมปังละเอียด ๆ ซึ่งเราสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายสไตล์เลยค่ะ

 Homemade Bread Crumb จากนิตยสาร Gourmet & Cuisine (เรื่อง : Paulie ภาพ : นพรัตน์ โตสติ)



          ถ้า "เครื่องปรุง" คือตัวชูรสให้กับอาหารแล้ว สำหรับของทอด เกล็ดขนมปังน่าจะเป็นตัวชูโรงให้เมนูอาหารทอดกรอบอร่อยยิ่งขึ้น เกล็ดขนมปังหาซื้อง่ายมีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ถ้าเรามีขนมปังเก่าหรือขนมปังเหลือ ๆ แทนที่จะทิ้งนำมาทำเกล็ดขนมปังไว้ใช้เองก็ไม่ยาก ซึ่งจะได้เกล็ดขนมปังสดไว้ใช้ทำเมนูต่าง ๆ โดยเฉพาะอาหารฝรั่งที่ใช้เกล็ดขนมปังยัดไส้กับเนื้อสัตว์ นำมาผัดกับกระเทียมปรุงรสให้เค็มและเผ็ดเล็กน้อย ยัดไส้พริกหวานแล้วอบ หรือโรยบนพาสต้าก็ได้ ถ้าเป็นสไตล์ญี่ปุ่นจะใช้คลุกกับเนื้อหมูทำเป็นหมูทอดทงคัตสึอร่อยดีทีเดียว

 สิ่งที่ต้องเตรียม 

          
 ขนมปังแซนด์วิชหรือขนมปังชนิดอื่น ๆ สไลซ์เป็นแผ่น
          
 เครื่องบดอาหาร หรือ เครื่องปั่น



 วิธีทำ

          
 1. ผึ่งขนมปังบนตะแกรงแล้วนำไปตากแดดหรืออบในเตาอบที่อุณหภูมิ 120-150 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที จนแห้ง

          
 2. หั่นขอบขนมปังทิ้ง และหั่นเนื้อขนมปังเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก

3. ปั่นขนมปังในเครื่องบดสับอเนกประสงค์ กดปั่นแล้วหยุด ทำสลับไปเรื่อย ๆ จนขนมปังเป็นเกล็ด (Trick : ถ้ากดปั่นทีเดียวจะทำให้ขนมปังติดเป็นก้อนในเครื่องปั่น) เตรียมไว้ทำเมนูอาหารตามชอบ


ขอบคุณที่มาจาก http://cooking.kapook.com/

วิธีทำน้ำเต้าหู้ สูตรโฮมเมดหลากรส ทำง่ายเพื่อสุขภาพ

          คนรักสุขภาพต้องไม่พลาดสูตรทำน้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลืองสูตรโฮมเมดจัดเต็มถึง 6 รสชาติ ทำง่ายราคาถูก ทำดื่มเองดีกว่ารสชาติเข้มข้นไม่ใสแจ๋ว มือใหม่ก็ทำได้ไม่ยุ่งยาก 

          น้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลือง อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยโปรตีน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโปรตีนจากถั่วเหลืองและคนที่แพ้นมวัวแล้วต้องการหานมชนิดอื่นทดแทน แถมน้ำเต้าหู้ยังย่อยง่าย ไม่มีไขมัน กินอิ่มแบบเบา ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยมี 6 สูตรวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรโฮมเมดมาฝาก แต่ก็ต้องไม่ธรรมดา เพราะเราจัดมาให้ถึง 6 ไตล์ได้รสชาติที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับคนอยากทำน้ำเต้าหู้ดื่มเอง ทำง่ายมาก ขอเพียงมีเวลาแช่ถั่วเหลืองเท่านั้นเอง ที่สำคัญ ส่วนผสมทุกอย่างต้นทุนยังต่ำ แต่ได้สุขภาพเต็ม ๆ คุ้มเกินคุ้ม


1. น้ำเต้าหู้สูตรพื้นฐาน

          เริ่มต้นด้วยการทำน้ำเต้าหู้สูตรพื้นฐานกันก่อนเลย สูตรนี้เหมาะสำหรับนักดื่มหน้าใหม่ เพราะสูตรนี้กลิ่นของถั่วเหลืองไม่แรง แถมยังใส่ถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันอีกด้วย วิธีทำไม่ได้ยากเลย ถ้าดื่มไม่หมดสามารถเทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วันด้วย วันหยุดนี้ลองมาทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแบบนี้เก็บไว้ดื่มกันเถอะ [สูตรจาก RinS CookBook]

ส่วนผสม น้ำเต้าหู้

          • ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
          • ถั่วลิสง 1 ถ้วย
          • อัลมอนด์ 1 ถ้วย
          • น้ำเปล่า
          • น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวานตามชอบ)

          หมายเหตุ : อัตราส่วนผสมระหว่างถั่วกับน้ำคือ 1:3

วิธีทำ น้ำเต้าหู้

          • 1. ล้างถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน (ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
          • 2. ใส่ถั่วทั้งหมดที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3) แล้วปั่นให้เข้ากันประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด 
          • 3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
          • 4. นำน้ำเต้าหู้ขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) 
          • 5. ตักน้ำเต้าหู้ที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ





2. น้ำเต้าหู้งาดำ 

          น้ำเต้าหู้งาดำเมนูเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้ประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม หิวเมื่อไรก็สามารถทำดื่มเองได้เลยค่ะ ช่วยให้อิ่มท้องและได้ประโยชน์จากทั้งน้ำเต้าหู้และงาดำหอม ๆ ใครชอบความหวานมากหรือน้อยก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ แช่เย็นสักหน่อยก่อนนำมาดื่มก็อร่อยไม่เบา

ส่วนผสม น้ำเต้าหู้งาดำ
          • ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
          • งาดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ตามความชอบ)
          • น้ำอุ่น 
          • น้ำตาลทราย (สำหรับเพิ่มความหวานตามชอบ)

วิธีทำน้ำเต้าหู้งาดำ

          • 1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด เลือกเม็ดที่เสียทิ้ง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม แล้วนำไปแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือข้ามคืนจนถั่วเหลืองนิ่ม
          • 2. ล้างงาดำให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วนำไปคั่วจนมีกลิ่นหอม เตรียมไว้
          • 3. ใส่ถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยงาดำคั่ว เติมน้ำอุ่นลงไปกะพอให้ท่วมส่วนผสม จากนั้นปั่นจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาเฉพาะน้ำ
          • 4. เทน้ำเต้าหู้งาดำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ พอเดือดแล้วเติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ คนผสมให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ตักใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ



3. น้ำเต้าหู้ผสมมะนาว

          น้ำเต้าหู้ผสมมะนาว สูตรนี้คิดค้นขึ้นโดย นพ.สมเกียรติ อธิคมกุลชัย จักษุแพทย์ ผู้ใช้ยาร่วมกับการรักษาโดยแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเอกชัย จังหวัดสมุทรสาคร [คลิกอ่าน น้ำเต้าหู้ผสมมะนาว สูตรเด็ดคูณสอง ที่เขาว่าเป็นยาอายุวัฒนะ] ที่แนะนำให้คนไข้ดื่มน้ำนมถั่วเหลืองผสมกับน้ำมะนาวเป็นประจำ เพื่อสร้างเสริมการทำงานของสมอง สายตา และยังช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เขาว่ากันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ใครรักสุขภาพต้องลอง

ส่วนผสม น้ำเต้าหู้มะนาว

          • น้ำเต้าหู้ (ไม่ใส่น้ำตาล) 150-200 ซี.ซี.
          • มะนาว 1 ผล

วิธีทำน้ำเต้าหู้มะนาว

          • 1. นำมะนาว 1 ผล ไปแช่เย็นแล้วนำมาคั้นเป็นน้ำ

          • 2. ผสมน้ำมะนาวลงไปในน้ำนมถั่วเหลือง คนให้เข้ากัน (จะมีลักษณะข้นคล้ายโยเกิร์ต รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ) พร้อมเสิร์ฟ


4. น้ำเต้าหู้แครอท

          น้ำเต้าหู้แครอทถ้วยนี้มีสีสันชวนดื่มมากกว่าเดิมจากสีส้มนวล ๆ ของน้ำแครอท และสรรพคุณของแครอทที่เปี่ยมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย สูตรนี้หอมกลิ่นใบเตยด้วยนะคะ ทำครั้งเดียวเทใส่ขวดเก็บเข้าตู้เย็นไว้ดื่มได้หลายวันเลยค่ะ 

สิ่งที่ต้องเตรียม

          • ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
          • น้ำเปล่า
          • น้ำแครอทคั้นเข้มข้น 1 ถ้วย
          • ใบเตยมัดเป็นปม
          • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย (สำหรับเพิ่มความหวานตามชอบ)
          • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

          • 1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
          • 2. ใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่ากะให้พอท่วมถั่วเหลืองแล้วปั่นจนละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
          • 3. ใส่น้ำเต้าหู้ที่ได้ผสมกับน้ำแครอทคนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบเตยลงไป ต้มจนเดือด หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ 
          • 4. พอน้ำเต้าหู้เดือดลดไฟลงให้เหลือไฟอ่อน ตักใบเตยออก ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ


5. น้ำเต้าหู้ใบเตย

          สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นของถั่วเหลืองมากนัก ขอแนะนำน้ำเต้าหู้ใบเตยแก้วนี้ เพราะมีกลิ่นหอมของใบเตยที่จะมาช่วยกลบกลิ่นถั่วเหลืองลงไป ทำง่าย ๆ เหมือนวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรพื้นฐาน เพียงแต่เพิ่มใบเตยลงไปเท่านั้น ถ้าหากใครอยากได้ธัญพืชเคี้ยวกรุบ ๆ ก็ใส่ลูกเดือย ข้าวบาร์เลย์ และงาดำคั่วลงไปอีกได้นะคะ

ส่วนผสม น้ำเต้าหู้ใบเตย

          • ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
          • น้ำเปล่า
          • เกลือป่น เล็กน้อย
          • ใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก 10-15 ใบ
          • น้ำตาลทราย (สำหรับเพิ่มความหวานตามชอบ)

วิธีทำ

          • 1.  ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
          • 2. ใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ตามด้วยใบเตย และน้ำเปล่ากะพอให้ท่วมส่วนผสม ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด จากนั้นนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
          • 3. เทน้ำเต้าหู้ใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ 
          • 4. พอน้ำเต้าหู้เดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ต้มต่อไปอีกประมาณ 10 นาที จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปปริมาณตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ 

6. น้ำเต้าหู้ชาเขียว


           สำหรับใครที่ชื่นชอบรสชาติขมของชาเขียว ลองจับมาใส่ในน้ำเต้าหู้ดูสิ กลายเป็นน้ำเต้าหู้ชาเขียว แม้หน้าตาน้ำเต้าหู้จะสีเขียวแต่ไม่ขม เวลาดื่มจะได้กลิ่นของนมถั่วเหลืองและชาเขียวผสมผสานกัน รสชาติเข้ากันดีไม่เบาเลยล่ะ

ส่วนผสม

          • น้ำเต้าหู้สูตรพื้นฐาน 1 ถ้วย
          • ผงชาเขียวมัทฉะ 1 ช้อนชา
          • น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทรายแดง  (สำหรับเพิ่มความหวานตามชอบ)

วิธีทำ

          • 1. นำนมถั่วเหลืองไปอุ่นแค่พอร้อน (ไม่ต้องเดือด) ตักใส่แก้ว เตรียมไว้
          • 2. ใส่ผงชาเขียวมัทฉะลงไปในน้ำร้อนแล้วคนผสมจนละลายเข้ากัน
          • 3. ใส่ส่วนผสมชาเขียวที่ละลายแล้วลงไปในแก้วนมถั่วเหลือง เติมน้ำตาลทรายแดงในปริมาณที่ชอบ คนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

ขอบคุณที่มาจาก http://cooking.kapook.com/